Trichomonas vaginalis
ที่มา: http://www.med.cmu.ac.th/dept/parasite/framepro.htm-Flagellates- Trichomonas vaginalis
อุบัติการและความสำคัญ
Trichomoniasis เป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุดในโลก
อุบัติการของโรคนี้แตกต่างกันโดยพบสูงในประเทศที่กำลังพัฒนาคือประมาณร้อยละ 5075 นอกจากจะทำให้เกิดอาการที่สัมพันธ์กับการติดต่อโรคนี้แล้วยังทำให้เกิดการติดเชื้อ
HIV ได้ง่ายขึ้น76 ในสตรีตั้งครรภ์พบว่ามีความสัมพันธ์กับการแตกของถุงน้ำคร่ำก่อนกำหนด
การคลอดก่อนกำหนด และทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้เกิดภาระในการดูแลทางสาธารณสุข
และใช้ค่าใช้จ่ายเป็นสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
สาเหตุ
Trichomoniasis เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว Trichomonas vaginalis ซึ่งรูปร่างลักษณะของโปรโตซัวชนิดจะมีลักษณะคล้ายผลสาลี่
มีหนวด 4 เส้น
ขนาดใหญ่กว่าเม็ดเลือดขาวเล็กน้อยเมื่อส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์
มีการเคลื่อนไหวเป็นกระตุกไปมา พบอยู่ในบริเวณ urogenital
mucosa เจริญเติบโตได้ดีใน pH
5-6 ขณะมีเพศสัมพันธ์การติดต่อจากเพศหญิงไปเพศชายพบร้อยละ
4-80 การติดต่อจากเพศชายไปเพศหญิงพบร้อยละ 66-10075 Trichomonas
vaginalis สามารถทนอยู่ในห้องน้ำเปียกได้นาน 90 นาที อยู่ในน้ำประปาที่อุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส
ได้นาน 24 ชั่วโมง อยู่ในน้ำอสุจิหลั่งออกมาได้นาน 6 ชั่วโมง อยู่ในตกขาวได้นาน 48
ชั่วโมง อยู่บนที่นั่งส้วมได้นาน
45 นาที และอยู่บนผ้าเช็ดตัวเปียกได้นาน 24 ชั่วโมง79
อย่างไรก็ตามการติดเชื้อนี้จะต้องอาศัยเชื้อจำนวนมากพอควร
และเชื้อเข้าไปในบริเวณที่สามารถติดเชื้อได้ด้วย ช่วงระยะของการแพร่เชื้อในผู้ติดเชื้อนานอย่างน้อย 35 วัน
อาการและอาการแสดง
ผู้ป่วยที่เป็น Trichomoniasis พบได้ตั้งแต่ไม่มีอาการซึ่งพบในสตรีร้อยละ
20-61 สำหรับในผู้ชายที่ติดเชื้อพบไม่มีอาการสูงกว่านี้ 75 ในสตรีที่มีอาการจะพบมีตกขาวมาก
สีเหลือง เขียวปนเทา มีกลิ่นและเป็นฟอง
ร่วมกับมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดและในช่องคลอดอาจมีอาการปัสสาวะแสบขัด
หรือเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ จากการที่เชื้อเข้าไปใน paraurethral glands เมื่อทำการตรวจภายในจะพบตกขาวลักษณะดังกล่าว
ผนังช่องคลอดมีการอักเสบเห็นเป็นสีแดง
ในรายที่เป็นมากจะเห็นการอักเสบที่ปากมดลูกเป็นสีแดงจัดและมีจุดเลือดออกใต้ชั้นเยื่อบุ
ดูจากภายนอกคล้ายผลสตอเบอรี่ บางครั้งเรียกว่า “strawberry cervix”
วงจรชีวิต
Trichomonas vaginalis อาศัยอยู่ในช่องคลอดส่วนล่างของสตรี
และท่อปัสสาวะและต่อมลูกหมากในผู้ชาย (1) มันแบ่งตัวแบบ binary fission (2) . พยาธิตัวนี้ไม่มีรูปแบบcyst form, ไม่สามารถอยู่นอกร่างกายได้ Trichomonas
vaginalis ติดต่อโดยทางเพศสัมพันธุ์
จากคนสู่คนเท่านั้น (3)
Trichomonas vaginalis มีแต่ระยะ trophozoite เท่านั้น (ไม่มีระยะที่เป็น cyst) ขนาดยาว 7-23
mm เฉลี่ย13 mm กว้าง 5-12 mm เฉลี่ย 7 mm (ขนาดก็พอๆกับเม็ดเลือดขาว)
มีเยื่อพัดโบกข้างตัว (undulating membrane) ช่วยในการเคลื่อนที่
การวินิจฉัย
การวินิจฉัย Trichomoniasis อาศัยอาการและอาการแสดงจากประวัติและการตรวจร่างกาย
ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการได้แก่ การตรวจ wet smear จะพบมีความไวในการตรวจร้อยละ 60-70 80 โดยจะมองเห็นการเคลื่อนไหวของ
Trichomonas vaginalis ชัดเจน การตรวจด้วย 10 % KOH (Whiff test) หยดลงในตัวอย่างตกขาวในสไลด์
จะได้กลิ่นเหม็นคาวปลา (fishy odor) การตรวจ Pap smear ก็สามารถตรวจพบเชื้อโดยมีความไวร้อยละ
80 81 สำหรับการเพาะเชื้อนั้นมีความไวและจำเพาะสูงแต่มักไม่นิยมและมีความจำเป็นในการตรวจน้อย
โดย culture media ที่นิยมใช้ ได้แก่ cystine-peptone-liver-maltose
หรือ CPLM media นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการพัฒนาการตรวจ
PCR และได้นำมาใช้ในการตรวจ Trichomoniasis ด้วย
การรักษา
ยาที่ใช้ในการรักษา Trichomoniasis ตาม CDC
2002 80
คือ metronidazole ขนาดที่แนะนำได้แก่
2 กรัม รับประทานครั้งเดียวหรือ 500 มิลลิกรัมวันละ
2 ครั้ง รับประทานติดต่อกัน 7 วัน
ประสิทธิภาพในการรักษาร้อยละ 90- 95 โดยแนะนำให้รักษาคู่นอนด้วย
หากยาที่ใช้ในการรักษาล้มเหลว แนะนำให้ใช้ยา metronidagole
ขนาด 2 กรัม รับประทานวันละครั้ง ติดต่อกัน 3-5
วัน สำหรับในสตรีมีครรภ์การติดเชื้อนี้สัมพันธ์กับการเกิดน้ำเดินก่อนครบกำหนด
การคลอดก่อนกำหนดและทารกน้ำหนักตัวน้อย การรักษาสามารถใช้ยา
metronidagole ในการรักษาได้โดยไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กับความพิการของทารกแต่กำเนิด
การป้องกัน
การใช้ถุงยางอนามัยชนิด ลาเทก (Latex)อย่างถูกวิธีจะช่วยลดการแพร่ของเชื้อทริโคโมแนสได้
แต่ก็ไม่อาจป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ การงดมีเพศสัมพันธ์เป็นการป้องกันที่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม
การมีเพศสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต่อกันนั้น ก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ทริโคโมแนสและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆลงได้อย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น