โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันจากเชื้อไวรัส
จากเชื้อ Rotavirus
โรคลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อไวรัส (Viral
gastroenteritis) เป็นโรคที่พบประปรายหรือพบมีการระบาดในทารก
เด็กเล็ก
และผู้ใหญ่มีผลโดยตรงต่อทารกและเด็กเล็กในการทำให้เกิดอุจจาระร่วงซึ่งอาการอาจรุนแรงจนทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
อุจจาระร่วงจากเชื้อ Rotavirus
·
ลักษณะโรค : มีโรคที่เกิดขึ้นประปรายหรือตามฤดูกาลมักพบการอักเสบติดเชื้อของลำไส้ในทารกและเด็กเล็กที่มีอาการไข้และอาเจียนตามมาหลังจากมีการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ
ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง
และทำให้เสียชีวิตได้ในกลุ่มที่มีอายุน้อย ผู้สัมผัสในครอบครัวที่เป็นผู้ใหญ่มักไม่ค่อยมีอาการป่วยเกิดขึ้น
ส่วนใหญ่จะเป้นการติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการ การติดเชื้อ rotavirus มีโอกาสพบในผู้ป่วยเด็กที่มีอาการป่วยทางคลีนิกแตกต่างกัน
แต่มีการได้รับเชื้อไวรัสโดยบังเอิญจากในโรงพยาบาลเชื้อโรต้าไวรัสนี้นับเป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงในเด็กแรกเกิด
และทารกที่อยู่ในโรงพยาบาล ในผู้ป่วยบางราย การป่วยจาก rotavirus ไม่สามารถแยกได้จากการป่วยที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสทางเดินอาหารอื่นๆ
ถึงแม้อุจจาระร่วงมาก rotavirus นี้จะมีอาการรุนแรงกว่าและมักมีอาการไข้อาเจียนเกิดขึ้นได้มากกว่าอุจจาระร่วงเฉียบพบันที่มีสาเหตุจากเชื้ออื่นก็ตาม
rotavirus จะถูกตรวจพบได้ในอุจจาระโดยวิธี EM, ELISA,
LA และวิธีการตรวจทางอิมมูโนโดยใช้น้ำยาตรวจสำเร็จรูปการติดเชื้อ rotavirus
ยังสามารถตรวจได้โดยวิธีการตรวจทางน้ำเหลือง
แต่การวินิจฉัยโรคโดยทั่วไปมักจะใช้ผลจากการตรวจหาเชื้อในอุจจาระเป็นหลัก
·
การเกิดโรค : พบได้ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนา
เป้นสาเหตุของการป่วยถึง 1 ใน 3 ของผู้ป่วยที่เป็นทารกและเด้กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า
5 ปี ที่มารักษาในโรงพยาบาล
เด็กส่วนใหญ่จะป่วยได้ในช่วงอายุตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 3
– 4 ปี เชื้อ rotavirus นี้
มักพบว่ามีความสัมพันธ์กับการทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงอย่างรุนแรงมากกว่าเชื้ออุจจาระร่วงตัวอื่น
ในประเทสที่กำลังพัฒนาประมาณว่าจะมีผู้ป่วยที่ตายด้วยอุจจาระร่วงถึง 870,000
รายต่อปี
ในประเทศที่มีภูมิอากาศอบอุ่นมักจะเกิดโรคนี้ในฤดูหนาวส่วนในประเทศเขตร้อนการเกิดโรคพบได้ตลอดปี
(ในประเทศไทยพบมากในฤดูหนาว) การติดเชื้อในเด็กแรกเกิดพบได้บ่อยแต่มักไม่แสดงอาการ
และการติดเชื้อในผู้ใหญ่มักไม่ปรากฏอาการเช่นกัน
แต่อาจพบการระบาดของโรคในสถานพักฟื้นคนชรา rotavirus ยังเป็นสาเหตุของการเกิดอุจจาระร่วงในกลุ่มนักเดินทาง
ในผู้ป่วยที่มีความพกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน(และผู้ป่วยโรคเอดส์) และพบได้ในกลุ่มผู้ปกครองเด็กที่ป่วยด้วยอุจจาระร่วงจาก
rotavirus ตลอดจนในผู้สูงอายุและเด็กที่อยู่ในสถานดูแล
·
วิธีการแพร่เชื้อ : โดยการรัเอาเชื้อที่ปนออกมากับอุจจาระโดยการกินหรือหายใจเข้าไป
ถึงแม้ว่า rotavirus จะไม่สามารถเจริญแพร่พันธุ์ได้ในระบบทางเดินหายใจ
แต่เชื้ออาจถูกกลืนลงสู่ทางเดินอาหารไปพร้อมๆ กับเสมหะ
หรือสารคัดหลั่งที่มาจากทางเดินหายใจ
·
ระยะฟักตัว : ประมาณ 24 -72 ชั่วโมง
·
ระยะติดต่อของโรค : เกิดได้ข่วงระยะที่มีอาการและตลอดระยะที่ยังมีการขับถ่ายเชื้อไวรัสออกมาเชื้อ
rotavirus มักไม่สามารถตรวจพบได้หลังจากมีอาการจํบป่วยแล้วประมาณ
8 วัน
(เคยมีรายงานในผู้ป่วยที่มีความพกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน
ว่าสามารถขับถ่ายเชื้อไวรัสออกจากร่างกายได้นานกว่า 30 วัน)
โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการอยู่นานประมาณ 4-6 วัน
·
ความไวและความต้านทานต่อการรับเชื้อ : ผู้ที่มีความไวต่อการรับเชื้อมากที่สุดคือเด็กที่มีอายุระหว่าง 6 เดือน ถึง 2 ปี ในเด็กที่มีอายุ 3 ปี ส่วนใหญ่จะพบว่ามีภูมิคุ้มกันต่อ rotavirus แล้ว
ในผู้ป่วยเด็กที่มีความพกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน
จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการป่วยด้วยอุจจาระร่วงจากเชื้อ rotavirus ได้นานกว่าเด็กปกติ
·
วิธีการควบคุมโรค
ก.
มาตรการป้องกัน
o
ยังไม่มีการกำหนดมาตรการที่แน่ชัดเกี่ยวกับสุขอนามัยในการป้องกันการได้รับเชื้อจากอุจจาระโดยการกิน
ซึ่งอาจจะไม่มีผลต่อการป้องกันการติดต่อโรคนี้ได้
o
ป้องกันทารกและเด็กเล็กไม่ให้สัมผัสกับผู้ที่ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วง
ทั้งที่อยู่ในครอบครัว ในสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือในโรงพยาบาล
o
ให้ภูมิคุ้มกันแบบ Passiva
immunization โดยการกินอิมมูโนโกลบุสินเพื่อให้ภูมิคุ้มกันโรคแก่เด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์การให้นมแม่ยังไม่มีผลต่อการป้องกันการติดเชื้อแต่อาจช่วยลดความรุนแรงของโรค
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนโรต้าไวรัสชนิดกิน
ข.
การควบคุมผู้ป่วย ผู้สัมผัส และสิ่งแวดล้อม
o
รายงานผู้ป่วยต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบในท้องถิ่น
o
การแยกผู้ป่วย :
การระวังป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
ผู้ดูแลเด็กทารกควรต้องมีการล้างมือบ่อยๆเป็นประจำ
o
การทำลายเชื้อ : มีการกำจัดอุจจาระเด็กที่ถูกสุขลักษณะให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดจะใช้ในกรณีที่มีการขาดน้ำมาก
หรือผู้ป่วยมีอาการอาเจียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น